จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 38: ประสบการณ์วิ่ง 10K ครั้งแรก

ต้องยอมรับว่าเทรนการวิ่งเพื่อสุขในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมกันเลยครับ ผมก็เป็นคนนึงที่มักจะหาเวลาไปวิ่งหลังเลิกงานอยู่เสมอ วิ่งมาสักพักก็เริ่มรู้สึกว่าวิ่งได้นานขึ้น ถึกขึ้น ก็เลยสนใจอยากลองลงงานวิ่งดูสักครั้ง โชคดีพี่ที่รู้จักที่เป็นสายวิ่ง ก็ได้แนะนำงาน “จอมบึงมาราธอน” ให้ได้รู้จัก ผมก็ได้ทำการลงทะเบียนไป และมีซ้อมก่อนไปวิ่งจริงนิด ๆ หน่อยๆ

จอมบึงมาราธอน เป็นงานวิ่งที่จัดขึ้นเป็นประจำ ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งก็ดำเนินมาถึงปีที่ 38 แล้วครับ งานจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรีครับ – ในปีนี้จัดขึ้น ณ วันที่ 19 มกราคม 2025 ครับ

การเตรียมตัวก่อนวันงาน

ผู้เข้าร่วมต้องไปรับอุปกรณ์ก่อนวันงานหนึ่งวัน อุปกรณ์ที่จะได้ก็จะมี เสื้อ และหมายเลขวิ่งพร้อมกับ BIB ครับ เมื่อไปถึง ปรากฏว่าผู้คนที่เข้าร่วมงานเยอะมาก จนต้องวนหาที่จอดอยู่สักพัก เอาจริง ๆ ก็ไม่เคย Research ข้อมูลเกี่ยวกับงานเลย รู้แค่ว่าต้องไปที่ไหน เริ่มเมื่อไรคร่าว ๆ จนมาถึงหน้างานจริง ก็เพิ่งจะรู้ว่านี่มันเป็นงานระดับประเทศ มาตรฐานระดับโลกเชียวล่ะ หลังจากรับอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปพักผ่อน เตรียมตัวสำหรับวิ่งจริงในวันถัดไปครับ

การแข่งขันมีให้เลือก 3 ระยะ

1. Mini Marathon – 10 กิโลเมตร – จำกัดเวลาที่ 2 ชั่วโมง 30 นาที
2. Half Marathon – 21.1 กิโลเมตร – จำกัดเวลาที่ 4 ชั่วโมง
3. Marathon – 42.195 กิโลเมตร – จำกัดเวลาที่ 7 ชั่วโมง

บรรยากาศวันแข่ง

ผมเลือกวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร ซึ่งปล่อยตัวเวลา 6:00 น. จึงมาถึงสนามตั้งแต่ 5:30 น.แล้วครับ อากาศค่อนข้างเย็น อบอวลไปกลิ่นสเปรย์พ่นสำหรับนักวิ่ง ก่อนจะเข้าบล็อกปล่อยตัว ก็มีการยืดวอร์มร่างกาย กับเหล่านักวิ่งทั้งหลายครับ มองไปรอบ ๆ แล้ว ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศของ งานวิ่งเป็นงานประชันแฟชั่นอยู่ระดับนึงเลย ชุดวิ่งและอุปกรณ์ติดตัวนักวิ่งก็จะแลดูมีสีสันสดใส ไปจนถึงเขียว-ส้มนีออน ฉูดฉาดมากครับ หรือแบบแฟนซีไปเลยก็มี บางคนก็ใส่ปีกผีเสื้อ หรือเครื่องหัวก็มีครับ รับรู้ได้ถึงพลังงานบวกเลยครับ

ประสบการณ์บนเส้นทาง

ถึงเวลาปล่อยตัว ก็มีการนับและให้สัญญาณอย่างยิ่งใหญ่เลยครับ ช่วงแรกเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้า เพราะคนเยอะมาก ผ่านไปสักพักก็เริ่มคล่องตัวขึ้น ระหว่างวิ่งก็จะมีกองเชียร์ตามเส้นทาง เป็นจุด ๆ ครับ ส่งเสียงดัง ให้กำลังใจ ปลุกไฟในการวิ่งมากครับ ถึงอยากจะสับขาไวขึ้น ตามเสียงเชียร์ ก็ยังต้องข่มใจให้วิ่งอยู่ที่เพช 6/km ไม่งั้นต้องหมดแรงก่อนแน่ ๆ จากอากาศที่หนาว ๆ ไม่นานนักก็เริ่มรู้สึกถึงไอร้อนที่เริ่มแผ่ออกมาจากร่างกายแล้วครับ

ความสำเร็จที่เส้นชัย

ในช่วงสุดท้ายของการวิ่งก่อนเข้าเส้นชัย อัตราการเต้นของหัวใจพุ่งสูงถึง 188 bpm แม้จะเหนื่อยมาก แต่ยังไม่ยอมหยุดครับ น้ำก็ไม่แวะดื่มตามจุดเลยครับ แน่วแน่มาก อีกนิดเดียวเอง – พอเข้าใกล้เส้นชัยเรื่อย ๆ ก็จะมีพี่ ๆ ตากล้องรอถ่ายรูปให้อยู่ครับ มาถึงจุดนี้ก็ต้องแอคครับ สู้กล้องเท่านั้น เก็บอาการเหนื่อยไว้ จะได้มีรูปดี ๆ ไว้อวดครับ

ผมยังคงรักษาความเร็วได้อยู่ที่เพช 6/km ครับ จนมาถึงเส้นชัย ผมทำเวลาไปทั้งหมด 1 ชั่วโมง 4 นาที 42 วินาที (1:04:42) ถึงตอนนี้ก็กระหายน้ำมากครับ เดินเตร็ดเตร่ เพื่อบรรเทาความเหนื่อย และ Warm down หลังจากวิ่ง หลังจากนั้นก็ไปต่อแถวรับเหรียญ รับคูปองอาหาร และเข้าซุ้มน้ำดื่ม รับประทานอาหาร ช็อปปิ้งอุปกรณ์วิ่งนิดหน่อย แล้วก็เตรียมตัวกลับที่พักครับ

ส่งท้าย

ความสำเร็จในสนามแรกที่ได้ลงแข่งขัน รู้สึกภูมิใจอยู่ลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก และประทับใจกับผู้จัดงานมากครับ รวมถึงเพื่อน ๆ ผู้เข้าร่วมแข่งขันหลายพันคนด้วย วงการนี้บางคนเข้าแล้วออกเลย ส่วนตัวผมนั้นน่าจะยังคงอยู่ครับ ฮ่า ๆ ยังรู้สึกสนุกอยู่ครับ สนามถัดไปผมตั้งเป้าท้าทายตัวเองด้วยการลอง Half Marathon ระยะ 21 กิโลเมตรครับ ยังไงก็เจอกันสนามหน้านะครับ ถ้ามีโอกาสจะมาเขียนเล่าให้ฟังอีกครับ

Source รูปภาพบางส่วนจาก Facebook Page : Chombueng Marathon